‘‘เอตํ [เอวํ (สฺยา. กํ.)] ยเชถ เมธาวี, เอโส ยญฺโญ มหปฺผโล;
เอตํ [เอวํ (สฺยา. กํ. ก.)] หิ ยชมานสฺส, เสยฺโย โหติ น ปาปิโย;
ยญฺโญ จ วิปุโล โหติ, ปสีทนฺติ จ เทวตา’’ติฯ นวมํ;
10. อุทายีสุตฺตํ
[40] อถ โข อุทายี [อุทายิ (สพฺพตฺถ)] พฺราหฺมโณ เยน ภควา เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา ภควตา …เป.… เอกมนฺตํ นิสินฺโน โข อุทายี พฺราหฺมโณ ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ภวมฺปิ โน โคตโม ยญฺญํ วณฺเณตี’’ติ? ‘‘น โข อหํ, พฺราหฺมณ, สพฺพํ ยญฺญํ วณฺเณมิ; น ปนาหํ, พฺราหฺมณ, สพฺพํ ยญฺญํ น วณฺเณมิฯ ยถารูเป โข, พฺราหฺมณ, ยญฺเญ คาโว หญฺญนฺติ, อเชฬกา หญฺญนฺติ, กุกฺกุฏสูกรา หญฺญนฺติ, วิวิธา ปาณา สงฺฆาตํ อาปชฺชนฺติ; เอวรูปํ โข อหํ, พฺราหฺมณ, สารมฺภํ ยญฺญํ น วณฺเณมิฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เอวรูปญฺหิ, พฺราหฺมณ, สารมฺภํ ยญฺญํ น อุปสงฺกมนฺติ อรหนฺโต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนาฯ
‘‘ยถารูเป จ โข, พฺราหฺมณ, ยญฺเญ เนว คาโว หญฺญนฺติ, น อเชฬกา หญฺญนฺติ, น กุกฺกุฏสูกรา หญฺญนฺติ, น วิวิธา ปาณา สงฺฆาตํ อาปชฺชนฺติ; เอวรูปํ โข อหํ, พฺราหฺมณ, นิรารมฺภํ ยญฺญํ วณฺเณมิ , ยทิทํ นิจฺจทานํ อนุกุลยญฺญํฯ ตํ กิสฺส เหตุ? เอวรูปญฺหิ, พฺราหฺมณ, นิรารมฺภํ ยญฺญํ อุปสงฺกมนฺติ อรหนฺโต วา อรหตฺตมคฺคํ วา สมาปนฺนา’’ติฯ
‘‘อภิสงฺขตํ นิรารมฺภํ, ยญฺญํ กาเลน กปฺปิยํ;
ตาทิสํ อุปสํยนฺติ, สญฺญตา พฺรหฺมจารโยฯ
‘‘วิวฏจฺฉทา [วิวตฺตจฺฉทา (สี. ปี.), วิวฏฺฏจฺฉทา (ก.)] เย โลเก, วีติวตฺตา กุลํ คติํ;
ยญฺญเมตํ ปสํสนฺติ, พุทฺธา ยญฺญสฺส [ปุญฺญสฺส (สฺยา. กํ. ปี.)] โกวิทาฯ
‘‘ยญฺเญ วา ยทิ วา สทฺเธ, หพฺยํ [หวฺยํ (สี. ปี.), หุญฺญํ (สฺยา. กํ.)] กตฺวา ยถารหํ;
ปสนฺนจิตฺโต ยชติ [ปสนฺนจิตฺตา ยชนฺติ (ก.)], สุเขตฺเต พฺรหฺมจาริสุฯ